เที่ยวญี่ปุ่น ช่วงสงกรานต์ เตรียมตัวเลย 12-16 เมษายน 2568 ลาหยุดเพิ่มได้อีกตั้งแต่วันที่ 11-20 เมษายน หยุดยาวจุก ๆ 9 วันได้เลย หนีหน้าร้อนเมืองไทย ไปซบเมืองสุดน่ารักอากาศเย็นสบาย แต่งตัวง่าย ๆ ชิว ๆ ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีเมืองที่น่าสนใจเราคัดมาให้แล้ว 5 เมืองด้วยกัน แต่ละที่จะมีความพิเศษอย่างไร ไฮไลท์สำคัญที่จะได้เจอมีอะไรบ้าง วางแผนล่วงหน้ากับเราได้เลยตอนนี้
เที่ยวญี่ปุ่น ช่วงสงกรานต์
5 เมืองน่าเที่ยวญี่ปุ่น ช่วงสงกรานต์ บรรยากาศดี ดอกไม้บานสะพรั่ง
รวม 5 เมืองน่าเที่ยวญี่ปุ่น ช่วงสงกรานต์เดือนเมษายน ซึ่งจะตรงกับช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีอากาศที่อุ่นสบาย ไม่ร้อนและไม่หนาว มีดอกไม้บานสะพรั่งทั่วประเทศ เช่น ดอกซากุระ ซึ่งก็เป็นหนึ่งในเป้าหมาย ที่เราสามารถพบได้ในเมืองสำคัญ ๆ ประกอบไปด้วย โตเกียว โอซาก้า ซัปโปโร เกียวโต และคามาคุระ และเพื่อให้เพื่อน ๆ เลือกเมืองเที่ยวช่วงสงกรานต์ได้อย่างโดนใจ เรามาดูกันก่อนว่าแต่ละเมืองมีไฮไลท์สำคัญอย่างไรบ้าง
โตเกียว (Tokyo)
โตเกียวเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น เดือนเมษายนเป็นช่วงเวลาที่สวยงามของโตเกียว เพราะเป็นช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่งทั่วเมือง ทำให้บรรยากาศดูสดใสและโรแมนติกเป็นพิเศษ หากคุณวางแผนจะไปเที่ยวโตเกียวในช่วงเวลานี้ ลองพิจารณาสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ดูนะคะ
สวนอุเอโนะ : สวนสาธารณะเก่าแก่ที่มีทั้งสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ และทะเลสาบ ช่วงดอกซากุระบาน จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกซากุระอย่างยิ่งใหญ่
ค่าเข้า : ฟรี
เปิดบริการ : 05.00-23.00 น.
แม่น้ำเมกุโระ : ชมวิวเรือสำราญที่แล่นผ่านใต้สะพานที่ประดับประดาด้วยโคมไฟ พร้อมกับชมดอกซากุระสองฝั่งแม่น้ำ
ค่าเข้า : ฟรี
เปิดบริการ : 24 ชั่วโมง ช่วงเปิดไฟประดับ 17.00 – 21.00 น.
ย่านชิบูย่า : ย่านแฟชั่นที่ทันสมัย ชมสี่แยกชิบูย่าที่พลุกพล่าน และหอนาฬิกาชิบูย่า
ค่าเข้า : ฟรี
เปิดบริการ : 24 ชั่วโมง
การเดินทางจากไทยไปโตเกียว : เดินทางด้วยเครื่องบินใช้ลงที่สนามบินนานาชาตินาริตะ (NRT) หรือสนามบินฮาเนดะ (HND) ในโตเกียว
โอซาก้า (Osaka)
โอซาก้า เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความสนุกสนาน อาหารอร่อย และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เดือนเมษายนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทางมาเยือนโอซาก้า เพราะอากาศอบอุ่นสบาย และดอกซากุระกำลังบานสะพรั่งทั่วเมือง ทำให้บรรยากาศดูสดใสและโรแมนติกเป็นพิเศษ
ปราสาทโอซาก้า : ชมปราสาทโอซาก้าที่รายล้อมไปด้วยดอกซากุระบานสะพรั่ง เป็นภาพที่สวยงามและโรแมนติก
ค่าเข้า : ส่วนของสวนจะเข้าชม (ฟรี) แต่ส่วนที่เสียเงิน คือ ตัวปราสาทโอซาก้าด้านใน (Osaka Castle Main Tower) และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้า (Osaka Castle Museum) ค่าเข้าผู้ใหญ่ (อายุ 16 ปีขึ้นไป) 600 เยน เด็ก (อายุต่ำกว่า 15 ปี) ชมฟรี
เปิดบริการ : 09.00-17.00 น. (เข้าชมได้ถึง 16:30 น.)
สวนโมโมยามะ : สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีทั้งสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและสวนสไตล์ตะวันตก ช่วงเดือนเมษายนจะเต็มไปด้วยดอกซากุระหลากหลายสายพันธุ์
ค่าเข้า : ฟรี
เปิดบริการ : 09.00-17.00 น. เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงในฤดูหนาว
แม่น้ำโดทงโบริ : ชมวิวเรือสำราญที่แล่นผ่านใต้สะพานที่ประดับประดาด้วยโคมไฟ พร้อมกับชมดอกซากุระสองฝั่งแม่น้ำ แหล่งรวมร้านอาหารชื่อดัง ลองชิมอาหารท้องถิ่น เช่น ทาโกะยากิ, โอโคโนมิยากิ, และคุชิคาตสึ
ค่าเข้า : ฟรี
เปิดบริการ : 24 ชั่วโมง
ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอเจแปน : สวนสนุกที่ได้รับความนิยมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีโซนต่างๆ ให้เลือกเล่นมากมาย แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ มากมาย เช่น ฮอลลีวูด, นิวยอร์ก, ซานฟรานซิสโก, จูราสสิค พาร์ค, และโลกเวทมนตร์ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นต้น
ค่าเข้า
- Day Studio Pass บัตรเข้าชมทั่วไปสำหรับ 1 วัน ราคาเด็กอายุ 4-11 ปี ราคาประมาณ 1,095 บาท ราคาผู้ใหญ่ 12 ปีขึ้นไป ราคาประมาณ 1,731 บาท
- 2-Day Studio Pass สำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวชม USJ 2 วัน (เช็คราคาตามเว็บขายตั๋ว)
- Universal Express Pass เป็นบัตรที่ช่วยให้คุณสามารถเข้าคิวเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ได้โดยไม่ต้องรอคิว
นาน (ราคาขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นนั้น ๆ)
เปิดบริการ : 09.00-21.00 น.
วัดชิเท็นโนจิ : วัดเก่าแก่ที่เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด อาคารเก่าแก่ที่ใช้เก็บสมบัติของวัด หอคอยที่สามารถมองเห็นวิวเมืองโอซาก้าได้อย่างสวยงาม พิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบราณวัตถุและเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ และ สวนที่ร่มรื่นและเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน
ค่าเข้า : เข้าชมฟรีบริเวณรอบนอกวัด ส่วนที่ต้องเสียค่าเข้า คือ ส่วนกลางของวัด ผู้ใหญ่ประมาณ 300 เยน, สวนโกคุราคุ-โจโด ผู้ใหญ่ประมาณ 300 เยน และหอสมบัติ ผู้ใหญ่ประมาณ 500 เยน
เปิดบริการ : 08.00-16.00 น. ในวันที่ 21 ของทุกเดือน วัดจะเปิดนานขึ้นอีก 30 นาที เพื่อเฉลิมฉลองบูรพาจารย์ พระโคโบ ไดชิ
การเดินทางจากไทยไปโอซาก้า : เดินทางด้วยเครื่องบินลงที่สนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) ในโอซาก้า
ซัปโปโร (Sapporo)
ซัปโปโร เมืองหลวงของฮอกไกโด เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายน เมื่อหิมะเริ่มละลายและดอกไม้เริ่มเบ่งบาน ทำให้เมืองซัปโปโรเต็มไปด้วยสีสันและความสดใส
สวนโอโดริ : สวนสาธารณะใจกลางเมืองที่จัดแสดงดอกซากุระหลากหลายสายพันธุ์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เข้าฟรี)
ค่าเข้า: เข้าฟรี
เปิดบริการ : 24 ชั่วโมง
สวนมารุยามะ : สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีทั้งสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ และทะเลสาบ ช่วงดอกซากุระบาน จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกซากุระอย่างยิ่งใหญ่
ค่าเข้า : เข้าฟรี
เปิดบริการ : 24 ชั่วโมง
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร : เป็นมากกว่าแค่พิพิธภัณฑ์ธรรมดาที่นี่คือการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์, วัฒนธรรม และรสชาติของเบียร์ชั้นเยี่ยม ตั้งอยู่ในอาคารอิฐแดงเก่าแก่ที่เคยเป็นโรงงานผลิตเบียร์แห่งแรกของญี่ปุ่น ทำให้บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยกลิ่นอายของยุคเก่าและความคลาสสิก
ค่าเข้า : เปิด 11.00-18.00 น. ถ้าต้องการดื่มเบียร์จะเปิดเวลา 11.30 – 22.00 น.
เปิดบริการ : เข้าฟรีเดินชมได้อย่างอิสระ ส่วนของ Premium Tour มีค่าใช้จ่ายผู้ใหญ่คนละ 500 เยน, เด็ก 300 เยน
ตลาดนิโจ : ตลาดปลาที่คึกคัก มีอาหารทะเลสดใหม่ให้เลือกซื้อมากมาย
ค่าเข้า : เข้าฟรี
เปิดบริการ : 07.00-18.00 น.
การเดินทางจากไทยไปซัปโปโร : เดินทางด้วยเครื่องบิน ลงที่สนามบินนิวชิโตเซะ (CTS) ในซัปโปโร
เกียวโต (Kyoto)
เกียวโต เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานสะพรั่งทั่วเมือง ทำให้เกียวโตกลายเป็นเมืองแห่งความโรแมนติกที่ใครๆ ก็อยากมาเยือน
วัดคิโยมิซุเดระ : วัดเก่าแก่ที่มีระเบียงไม้ที่ยื่นออกไป และเมื่อมองลงไปจะเห็นวิวของเมืองเกียวโตและดอกซากุระบานสะพรั่ง
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 200 เยน
เปิดบริการ : 06.00-18.00 น. เวลาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามฤดูกาล
อาราชิยามะ : บริเวณป่าไผ่ที่เงียบสงบและสวยงาม เมื่อมาถึงฤดูใบไม้ผลิ จะมีดอกซากุระบานรายล้อม ทำให้บรรยากาศโรแมนติกยิ่งขึ้น
ค่าเข้า : เข้าชมฟรี สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งมีค่าเข้าชม เช่น สวนลิงอิวาตะยามะ, วิลล่าโอโคจิซังโซ, และบางวัดวาอาราม
เปิดบริการ : 24 ชั่วโมง
สวนมารุยามะ : สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเกียวโต มีทั้งสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและสวนสไตล์ตะวันตก ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกซากุระบานสะพรั่งทั่วทั้งสวน
ค่าเข้า : ฟรี
เปิดบริการ : 24 ชั่วโมง
วัดคินคะคุจิ (วัดทอง) : วัดที่ทั้งหลังเคลือบทองคำ ส่องประกายระยิบระยับ
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 500 เยน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและชั้นประถมศึกษา 300 เยน
เปิดบริการ : 09.00-17.00 น. เวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
วัดกิงคะคุจิ (วัดเงิน) : วัดที่มีส่วนหนึ่งของอาคารเคลือบด้วยเงิน
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 500 เยน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและชั้นประถมศึกษา 300 เยน
เปิดบริการ : 08.30-17.00 น. (ในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ อาจปิดเร็วขึ้นคือ 16:30 น.)
การเดินทางจากไทยไปเกียวโต : เดินทางด้วยเครื่องบินโดยส่วนใหญ่จะบินลงที่สนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) ซึ่งอยู่ใกล้กับโอซาก้า และสามารถเดินทางต่อไปยังเกียวโตได้สะดวก
การเดินทางจากโอซาก้าไปเกียวโต : ส่วนใหญ่นิยมใช้รถไฟ Shin-Osaka Station ไปลงที่ สถานีรถไฟเกียวโต ใช้เวลา 24 นาที ราคาประมาณ ¥580 หรือ ประมาณ 127 บาท รถไฟจะมาทุก 15 นาที
คามาคุระ (Kamakura)
คามาคุระเมืองเก่าแก่ที่อยู่ใกล้โตเกียว ห่างออกไปเพียง 63.2 กิโลเมตร เป็นเมืองประวัติศาสตร์เก่าแก่ริมทะเลของญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของวัดวาอารามเก่าแก่ พระใหญ่ไดบุตสึ และบรรยากาศที่เงียบสงบ เมื่อเข้าสู่เดือนเมษายน คามาคุระจะเปลี่ยนโฉมเป็นเมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิที่งดงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ดอกซากุระ ที่บานสะพรั่งทั่วเมือง ทำให้คามาคุระกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว
วัดฮาเซเดระ : วัดเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อเรื่องดอกพลัม แต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็มีดอกซากุระให้ชมเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจ รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม รูปปั้นไม้ขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารหลักของวัด จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองคามาคุระและมหาสมุทรแปซิฟิก สวนวัดฮาเซเดระมีสวนที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน จะมีดอกไม้หลากหลายชนิดบานสะพรั่ง และ พิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบราณวัตถุและเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ของวัด
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 100 เยน
เปิดบริการ : 08.00-17.00 น. เวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
ชายหาดเอโนชิมะ : ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม พร้อมกับชมดอกซากุระที่บานอยู่บริเวณชายหาด มีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกเล่นมากมาย เช่น เจ็ตสกี พายเรือคายัค และวินด์เซิร์ฟ มีร้านอาหารทะเลมากมายให้เลือกทาน อาหารทะเลสดใหม่ อร่อย และราคาไม่แพง
ค่าเข้า : ฟรี
เปิดบริการ : 24 ชั่วโมง
โคมาชิโดริ : ถนนสายหลักของเมืองคามาคุระ มีร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่เรียงรายสองข้างทาง และยังมีต้นซากุระให้ชมระหว่างทางเดิน
ค่าเข้า : ฟรี
เปิดบริการ : เช้า-เย็น (แล้วแต่เวลาของร้านค้านั้น ๆ )
พระใหญ่คามาคุระ หรือ คามาคุระ ไดบุตสึ พระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางแจ้ง เป็นไฮไลท์สำคัญของวัด ความสูงของพระพุทธรูปถึง 13.35 เมตร และมีน้ำหนักประมาณ 121 ตัน ทำให้เป็นพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 400 เยน, นักเรียนมัธยม 300 เยน และนักเรียนประถม 200 เยน
เปิดบริการ : 08.00-17.00 น.
วัดโคโตคุอิน : วัดที่ประดิษฐานพระใหญ่คามาคุระ
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 400 เยน, นักเรียนมัธยม 300 เยน และนักเรียนประถม 200 เยน
เปิดบริการ : 08.00-17.00 น. เวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
การเดินทางจากไทยไปคามาคุระ : เดินทางด้วยเครื่องบินใช้ลงที่สนามบินนานาชาตินาริตะ (NRT) หรือสนามบินฮาเนดะ (HND) ในโตเกียว
การเดินทางจากโตเกียวไปคามาคุระ : ใช้รถไฟ JR สายโยโกซุกะ (Yokosuka Line) ไปลงที่สถานีคามาคุระ (Kamakura)
สรุป
การเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ช่วงสงกรานต์ วันที่ 12-16 เมษายน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จึงสามารถเลือกไปเที่ยวได้หลายเมือง ประกอบไปด้วย โตเกียว โอซาก้า ซัปโปโร เกียวโต และ คามาคุระ (Kamakura) คุณจะได้ชมดอกซากุระที่บานสะพรั่ง สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาศาสตร์ วัด พิพิธภัณฑ์ และธรรมชาติ ท่ามกลางอากาศที่อบอุ่น และเย็นสบาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลบอากาศร้อนอบอ้าวในเมืองไทย และช่วงเทศกาลสงกรานต์มากที่สุดนั่นเอง
ขอบคุณที่อ่านบทความของเรา
- ถ้าชอบอย่าลืมอย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะ
- ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/divaplustour
Diva Plus มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น มากมายให้เลือก จองทัวร์ติดต่อ
- โทร 065-459-5565
- Line ID : @divaplus
- Email : service@divaplus.co.th
