...
จอร์เจียกับตุรกีเที่ยวไหนดี | แนะนำฤดูน่าเที่ยว ไม่พลาดทุกไฮไลท์
จอร์เจียกับตุรกีเที่ยวไหนดี

จอร์เจียกับตุรกีเที่ยวไหนดี | แนะนำฤดูน่าเที่ยว ไม่พลาดทุกไฮไลท์

จอร์เจีย (Georgia) และตุรกี (Turkey) ต่างก็เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบเที่ยวแบบไหนมากกว่ากัน ถ้าหากกำลังแพลนเที่ยวสองประเทศนี้อยู่แล้วกำลังลังเลว่าระหว่างจอร์เจียกับตุรกีเที่ยวไหนดี วันนี้Diva Plus เอาฤดูน่าเที่ยวของแต่ละประเทศ พร้อมไฮไลท์ของทั้งสองประเทศมาแนะนำให้แล้ว

จอร์เจียกับตุรกีเที่ยวไหนดี

จอร์เจียเที่ยวไหนดี

จอร์เจียมีภูมิอากาศหลากหลาย เนื่องจากภูมิประเทศที่มีทั้งภูเขา ทะเล และที่ราบ เมืองหลักๆ ของจอร์เจียที่นักท่องเที่ยวนิยมไป คือ เมืองทบิลิซิ (Tbilisi) ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศ เมืองมิชเคทา เมืองกูเดาริ เมืองบาทูมิ เมืองบอร์โจมิ และเมืองซิกนาลี โดยแต่ละเมืองก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป

จอร์เจียจะมีทั้งหมด 4 ฤดูกาล คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว และเนื่องจากภูมิประเทศที่มีทั้งภูเขา ทะเล และที่ราบสูง ทำให้แต่ละฤดูมีสภาพอากาศที่แตกต่างกันไป ดังนี้

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย: 10-20°C ขึ้นอยู่กับพื้นที่
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย: 20-30°C ในพื้นที่เมืองและที่ราบ แต่ที่เทือกเขาอาจยังคงเย็นอยู่
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อุณหภูมิเฉลี่ย: 10-25°C เป็นช่วงที่ธรรมชาติเปลี่ยนสีเป็นส้ม เหลือง และแดง
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อุณหภูมิเฉลี่ย: 0-10°C ในพื้นที่เมืองใหญ่ ๆ และต่ำกว่านี้ในภูเขา มีหิมะตกในพื้นที่ภูเขา

จอร์เจียเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ทั้งในเรื่องธรรมชาติ วัฒนธรรม และอาหาร ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ซึ่งถ้าหากถามว่าไปเที่ยวจอร์เจีย (Georgia) ช่วงไหนดี เราขอแนะนำช่วงฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม จะเป็นช่วงที่ดีน่าเที่ยวที่สุด สภาพอากาศเย็นสบาย ช่วงนี้ธรรมชาติเขียวชอุ่ม ดอกไม้เริ่มบาน อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 10-20°C สามารถสวมเสื้อแขนยาวหรือแจ็คเก็ตบาง ๆ กางเกงขายาว และรองเท้าสวยๆ เดินเที่ยวได้ แต่แนะนำให้พกเสื้อกันฝนหรือร่มติดกระเป๋าไว้ด้วย เนื่องจากบางพื้นที่และบางวันอาจมีฝนตก

ที่เที่ยวแนะนำ ไฮไลท์ของจอร์เจีย:

–  เมืองหลวงทบิลิซี (Tbilisi) เที่ยว Narikala Fortress ป้อมปราการโบราณที่ตั้งอยู่บนเนินเขามองเห็นวิวของเมืองทบิลิซี เหมาะสำหรับการชมวิวทั้งเมืองและแม่น้ำ Mtkvari และวิหารแห่งทบิลิซี(Sameba Cathedral) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจอร์เจีย โดดเด่นด้วยการออกแบบแบบศิลปะออร์โธดอกซ์

–  เมืองมิทสเคตา (Mtskheta) เที่ยว Jvari Monastery อารามที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองมิทสเคตา เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของศาสนาคริสต์ในจอร์เจีย และเป็นมรดกโลก UNESCO

–  เทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountains) เที่ยว Gudauri สกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงที่สุดในจอร์เจีย เหมาะสำหรับการเล่นสกีและกิจกรรมกลางแจ้งในฤดูหนาว รวมถึงการเล่นพาราไกลดิ้งในฤดูร้อน

–  เมืองอัพลิสต์ซิเค (Uplistsikhe) เที่ยว Uplistsikhe Cave Town เมืองถ้ำโบราณที่สร้างจากการแกะสลักหิน มีถ้ำโบสถ์และเส้นทางเดินที่ทอดตัวผ่านภูมิทัศน์ที่น่าทึ่ง

–  เมืองบอร์โจมิ (Borjomi) เที่ยว Borjomi Central Park อุทยานกลางเมืองที่เป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ มีชื่อเสียงจากน้ำแร่ Borjomi ที่เป็นที่นิยมในจอร์เจียและทั่วโลก นักท่องเที่ยวสามารถดื่มน้ำแร่จากแหล่งได้โดยตรง

–  Ushguli หมู่บ้านที่สูงที่สุดในยุโรปและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO

จอร์เจียเที่ยวไหนดี

ตุรกีเที่ยวไหนดี

ตุรกีเป็นประเทศที่ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย มีพื้นที่จากชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงเทือกเขาสูง ทั้งยังมีเมืองที่มีเอกลักษณ์ทำให้ถูกเรียกว่าเป็นดินแดนสองทวีป เนื่องจากตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย มีเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเยือน เช่น อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่มีทั้งประวัติศาสตร์และความทันสมัย เป็นศูนย์กลางสำคัญของการท่องเที่ยว คัปปาโดเกีย (Cappadocia) เมืองขึ้นชื่อเรื่องการขึ้นบอลลูนลมร้อน อันตัลยา (Antalya) เมืองริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่เป็นที่นิยมสำหรับการท่องเที่ยวชายหาด และอเฟซุส (Ephesus) มืองโบราณที่เป็นมรดกโลก UNESCO เต็มไปด้วยซากปรักหักพังของอารยธรรมโรมัน อ่านเพิ่มเติม.. เที่ยวตุรกี เดือนไหนดี เที่ยวสนุกต้องเลือกช่วงเวลานี้

ตุรกีจะมีทั้งหมด 4 ฤดูกาล คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว และเนื่องจากตุรกีเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทั้งในด้านภูมิประเทศและสภาพอากาศ ทำให้แต่ละฤดูมีสภาพอากาศที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน – มิถุนายน) อุณหภูมิเฉลี่ย:5-25°C เป็นช่วงที่ดอกไม้เริ่มบานและธรรมชาติกำลังสวยงาม
  • ฤดูร้อน (กรกฎาคม – กันยายน) อุณหภูมิเฉลี่ย:25-35°C  พื้นที่ทางตอนใต้และชายฝั่งจะร้อนมาก
  • ฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม – พฤศจิกายน) อุณหภูมิเฉลี่ย:10-20°C เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีส้มแดง
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม – มีนาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย:0-10°C

หากให้เราแนะนำช่วงที่น่าเที่ยวที่สุดของตุรกีก็คือ ช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิและต้นฤดูร้อน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-เดือนมิถุนายนและช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงในเดือนตุลาคม เพราะเป็นช่วงที่เมืองสวย อากาศเย็นสบาย เป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการเที่ยวชมธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง สภาพอากาศอากาศเย็นสบายและเริ่มอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 15-25°C เป็นช่วงที่ดอกไม้เริ่มบานและธรรมชาติกำลังสวยงาม สามารถสวมเสื้อผ้าสบาย ๆ เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงยีนส์ หรือกางเกงขายาว เดินเที่ยวได้ แต่ก็แนะนำให้เตรียมแจ็คเก็ตบาง ๆ หรือเสื้อกันลม เพราะอากาศตอนเช้าและเย็นอาจเย็นลงเล็กน้อย

ที่เที่ยวแนะนำ ไฮไลท์ของตุรกี:

–  อิสตันบูล (Istanbul) เที่ยว มหาวิหารฮาเยียโซเฟีย (Hagia Sophia) มหาวิหารเก่าแก่ที่เป็นสัญลักษณ์ของอิสตันบูล เคยเป็นโบสถ์คริสเตียนและมัสยิด ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ มีสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งด้วยโดมขนาดใหญ่ ต่อด้วยการแวะชม Blue Mosque (Sultan Ahmed Mosque) มัสยิดสีฟ้าที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 มีการตกแต่งภายในด้วยกระเบื้องสีน้ำเงินอย่างงดงาม และ Topkapi Palace พระราชวังเก่าแก่ของสุลต่านออตโตมัน มีพื้นที่ขนาดใหญ่และแสดงสมบัติล้ำค่าของจักรวรรดิ

–  คัปปาโดเกีย (Cappadocia) ต้องลองไปขึ้นบอลลูนลมร้อนหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมของ Cappadocia คือการขึ้นบอลลูนลมร้อนเพื่อชมวิวทิวทัศน์ของหินรูปทรงแปลกตาและเมืองถ้ำในยามเช้า

–  เอเฟซุส (Ephesus) เที่ยว Temple of Artemis หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ แม้ในปัจจุบันจะเหลือเพียงบางส่วน แต่ยังคงน่าตื่นตาในด้านประวัติศาสตร์

–  อันตัลยา (Antalya) เที่ยวเมืองเก่า Antalya Old Town (Kaleici) ที่เต็มไปด้วยถนนแคบ ๆ และบ้านโบราณที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของตุรกี

–  Troy เมืองทรอย สถานที่ที่มีชื่อเสียงจากตำนานสงครามกรุงทรอย เป็นเมืองโบราณที่ได้รับการบูรณะใหม่ และมีโมเดลม้าไม้ขนาดใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ของสงครามกรุงทรอย

–  ภูเขา Ararat ภูเขาที่สูงที่สุดในตุรกี เป็นที่เชื่อกันว่าเป็นที่พักของเรือโนอาห์หลังจากน้ำท่วมโลก

–  ทะเลดำ (Black Sea Region) มีโบสถ์และอารามโบราณ เช่น Sumela Monastery ที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง

ตุรกีเที่ยวไหนดี

สรุป

ตุรกีมีประวัติศาสตร์ทางประวัติศาสตร์ ภูมิประเทศที่แตกต่างกัน และการผสมผสานของอารยธรรม ในขณะที่จอร์เจียขึ้นมีทั้งภูเขา ทะเล และที่ราบสูง ดังนั้นการเลือกเดินทางท่องเที่ยวระหว่างจอร์เจียกับตุรกีว่าจะเลือกเที่ยวไหนดีก็อยู่กับตัวเลือกของแต่ละคน กล่าวโดยสรุปคือ

–  ถ้าคุณชอบธรรมชาติ ทิวทัศน์ภูเขา และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ไม่ซ้ำใคร จอร์เจียอาจจะตอบโจทย์คุณได้ดี 

–  ถ้าคุณสนใจประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมอิสลาม และต้องการสัมผัสประสบการณ์ทั้งทางทะเลและภูมิประเทศที่สวยงาม ตุรกีอาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

จอร์เจียและตุรกีมีความพิเศษในแบบของตัวเอง มีเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์การที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าคุณสนใจที่จะท่องเที่ยวแบบไหนมากกว่านั่นเอง

ขอบคุณที่อ่านบทความของเรา

  1. ถ้าชอบอย่าลืมอย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะ
  2. ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/divaplustour

Diva Plus มีโปรแกรม ทัวร์ต่างประเทศ มากมายให้เลือก จองทัวร์ติดต่อ